สุเชาว์ วิเคราะห์ปีกขวาทีมชาติไทย ต้องใช้ใคร,เล่นยังไงถึงลงตัว ?
ทีมชาติไทย กำลังจะมีโปรแกรมนัดสำคัญในศึก ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบแบ่งกลุ่ม ที่จะพบกับ สาธารณรัฐประชาชนจีน ในวันที่ 16 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ ซึ่งถือว่าเป็นเกมชี้ชะตานัดสำคัญ ที่อาจส่งผลถึงการเข้ารอบสุดท้ายต่อไป
อย่างไรก็ตามปัญหาเรื่องของตัวผู้เล่น โดยเฉพาะตำแหน่ง ‘ปีกขวา’ หรือตัวริมเส้นทางฝั่งขวา เหมือนจะยังหาคนที่ใช่ มาทำผลงานในตำแหน่งนี้แบบเหมาะสมเป็นขาประจำยังไม่ได้ มีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปตามฟอร์มการเล่นอยู่เสมอ แตกต่างกับในยุคเก่าก่อนที่มีนักเตะที่ไว้ใจได้ยืนในตำแหน่งนี้ไม่ขาด
หนึ่งในอดีตผู้เล่นทีมชาติที่ได้ลงเล่นในตำแหน่งนี้บ่อยครั้งในยุคก่อน คือ ‘กบ-สุเชาว์ นุชนุ่ม’ ซึ่งเคยติดธงรับใช้ทัพช้างศึกในเกมอย่างเป็นทางการไปถึง 58 นัด แล้วสามารถทำประตูได้ 6 ลูก มองว่า ปัญหาปีกขวาบอดอาจไม่ใช่เรื่องของคุณภาพผู้เล่น แต่ต้องโฟกัสเรื่องความเข้าใจในการเล่นระหว่าง ปีก และ แบ็ค มากกว่า
เมื่อทางทีมงาน Think Curve สอบถามถึงความคิดเห็นของเขาเกี่ยวกับประเด็นนี้ สุเชาว์ ได้แชร์มุมมองของรุ่นพี่ทีมชาติเอาไว้ว่า
“ตอนสมัยที่พี่เล่นกับ พี่เปรม (สุรีย์ สุขะ) ในทีมชาติ มีระยะเวลาเก็บตัวค่อนข้างนาน บางทีอยู่ในแคมป์ 4 เดือนถึงครึ่งปีก็มี แล้วตัวของผมกับพี่เขาก็ได้เล่นร่วมกันมาตลอด จนเข้าใจจังหวะซึ่งกันและกัน แทบไม่ได้กำหนดตายตัวว่าใครจะเล่นแบ็คหรือเล่นปีก ด้วยธรรมชาติของฟุตบอลผู้เล่นต้องหมุนเวียนตำแหน่งกันได้ตลอด ไม่อย่างงั้นคู่แข่งเขาก็จะประกบเราง่าย”
“ผู้เล่นต้องมีความเข้าใจในการเล่นว่าควรมีหลายมิติ การประสานงานกับเพื่อนก็เป็นสิ่งสำคัญ บางครั้งก็ต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการเล่นหน้างานตามสถานการณ์จริง ซึ่งก็ต้องถามกลับไปว่า ปีกและแบ็ค เคยเล่นร่วมกันมามากน้อยขนาดไหนดีกว่า? ระยะเวลาเก็บตัวทุกวันนี้มีให้นักเตะอยู่ร่วมกันกี่วัน เพราะเท่าที่ดูผู้เกี่ยวข้องเขาเห็นโปรแกรมอยู่แล้ว แต่เหมือนว่าระยะเวลาเก็บตัวไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่นัก จังหวะที่นักเตะจะใช้เซ้นส์และเดาทางเพื่อนแบบเข้าขารู้ใจมันก็หายไป”
ยิ่งไปกว่านั้น กัปตันกบ ได้ยกตัวอย่างให้เห็นภาพอย่างชัดเจนขึ้นว่า ถ้าลองกลับไปดูช่วง ตังค์ (สารัช อยู่เย็น), เจ (ชนาธิป สรงกระสินธ์) และ มุ้ย (ธีรศิลป์ แดงดา) ขึ้นมาเล่นเป็นตัวหลักร่วมกันในทีมชาติบ่อยๆ แล้วเล่นกันได้อย่างเข้าขารู้ใจ แฟนบอลเชียร์สนุก ย่อมเป็นเพราะว่า กลุ่มผู้เล่นพวกนี้ได้เล่นด้วยกันเป็นประจำ จนเซ้นส์ฟุตบอลทันกัน
ดังนั้นเรื่องรายละเอียดพวกนี้มีทางปรับแก้ได้ หากระยะเวลาในการเก็บตัวหรือการวางแผน เป็นไปในทิศทางที่เหมาะสม ทำให้ผู้เล่นมีความพร้อม และ นักเตะมีความเข้าใจซึ่งกันและกัน รวมไปถึงการวางแท็คติกที่ทำได้ตามแผนงานที่วางเอาไว้
ซึ่งการเจอกับ สาธารณรัฐประชาชนจีน โอกาสที่ทัพช้างศึกจะสู้ได้และทำผลงานได้ดีนั้นมีอยู่แล้ว แต่จะทำได้ดีขนาดไหน? ก็ต้องย้อนกลับไปมององค์ประกอบต่างๆ ตามที่กล่าวมาข้างต้น เพราะศักยภาพของขุมกำลังผู้เล่นนั้นไม่ใช่ปัญหา
แหล่งข้อมูลอ้างอิง : การสัมภาษณ์ส่วนตัว
บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ข่าวและบทความล่าสุด