ค่าแรงเบา คุณภาพสูง : 5 ลีกยุโรปที่สโมสรไทยควรค่าแก่การสเกาท์นักเตะต่างชาติ

ค่าแรงเบา คุณภาพสูง : 5 ลีกยุโรปที่สโมสรไทยควรค่าแก่การสเกาท์นักเตะต่างชาติ
วิสูตร ดำหริ

จากการเพิ่มโควตาลงทะเบียนนักเตะต่างชาติเป็น 5 คน ทำให้สโมสรไทยลีกอิมพอร์ตแข้งจากต่างแดนเข้ามามากขึ้น หากนับคร่าว ๆ ณ เวลานี้ มีนักเตะต่างชาติค้าแข้งอยู่ในไทยลีก 1 มากกว่า 100 คน และเป็นนักเตะบราซิลมากถึง 30%

แต่เทรนด์การใช้โควตาต่างชาติช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เกิดการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจ หลายทีมหันมาใช้บริการพ่อค้าแข้งจากยุโรป บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่มี โกรัน เคาซิช, ฟิลิป โรจิช และ ฮาริส วุคคิช คือตัวอย่างที่ชัดเจน

นักเตะยุโรปกลุ่มนี้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า พวกเขาสามารถทำผลงานได้ดีไม่แพ้นักเตะจากชาติอื่น สภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวในเมืองไทย ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการเล่นฟุตบอลแม้แต่น้อย ส่วนเรื่องค่าแรงนั้นก็ไม่ได้แพงอย่างที่หลายคนคิด

และนี่คือ 5 ลีกยุโรปที่สโมสรไทยควรสเกาท์นักเตะเสริมทัพ เพราะนอกจากฝีเท้าจะไม่เป็นสองรองใครแล้ว ค่าเหนื่อยของพวกเขาก็อยู่ในระดับเดียวนักเตะในเมืองไทย จะมีลีกไหนบ้างนั้น ติดตามได้ที่ Think Curve - คิดไซด์โค้ง

ออลสเวนส์คาล (สวีเดน)

PHOTO : Port FC

สวีเดนเป็นขาประจำในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ซึ่งนักเตะส่วนใหญ่ก็เติบโตมาจากสโมสรในประเทศ ดังนั้นเลิกกังวลเรื่องฝีเท้าของนักเตะไปได้เลย เพราะออลสเวนส์คาลถือเป็นแหล่งผลิตแข้งคุณภาพของยุโรป

ด้วยความที่ออลสเวนส์คาลไม่ใช่ลีกระดับแนวหน้า นักเตะจึงไม่ได้รับค่าจ้างมากมายนัก เฉลี่ยแล้วแข้งลีกสวีเดนรับค่าเหนื่อยตกเดือนละ 6,700 ปอนด์ หรือคิดเป็นเงินไทย 270,000 บาทเท่านั้น ซึ่งเป็นเรทเดียวกับที่สโมสรไทยจ่ายอยู่แล้ว แข้งไทยหลายคนยังรับมากกว่านี้ด้วยซ้ำ

ออลสเวนส์คาลจึงถือเป็นแหล่งรวมของดี เพราะตอบโจทย์ทั้งเรื่องฝีเท้าและค่าแรง หากโชคดีเจอช้างเผือกขึ้นมา ยังก็มีโอกาสทำกำไรจากการขายได้อีก เรียกได้ว่ามีแต่ได้กับได้ ตลาดนักเตะสวีเดนจึงเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายที่น่าสนใจสำหรับสโมสรจากเมืองไทย

ปัจจุบันมีแต่นักเตะในลีกรองของสวีเดนมาเล่นในไทย อย่างในรายของ กุสตาฟ ซาห์ลิน ตัวรุกลูกครึ่งไทย-สวีเดน ที่ถูก การท่าเรือ เอฟซี ดึงมาร่วมทีมในฤดูกาลนี้

เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ฟิลิป โรกิช : แข้งต่างชาติป้ายเเดง บุรีรัมย์ ที่เคยฮ็อตเตะตากุนซือ เชลซี | Think Curve - คิดไซด์โค้ง
Think Curve - คิดไซด์โค้ง วันอังคารที่ 17 มกราคมที่ผ่านมาเป็นวันสุดท้ายของการซื้อขายนักเตะในตลาดไทยลีก หลายทีมซื้อนักเตะเข้ามากมาย และหลายทีมขายนักเตะออกมากมาย

เฮอร์วัตสก้า โนโกเมตนา ลีก้า (โครเอเชีย)

PHOTO : Buriram United

โครเอเชียผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศในฟุตบอลโลกถึง 3 ครั้ง จาก 6 ครั้งที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย เรียกว่าเป็นผลงานที่สุดยอดมาก ๆ สำหรับชาติเล็ก ๆ ที่มีประชากรไม่ถึง 4 ล้านคน ซึ่งความสำเร็จของพวกเขาก็มาจากการมีลีกในประเทศเป็นรากฐาน

นักเตะอย่าง ลูก้า โมดริช, มาเตโอ โควาซิช และ มาร์เซโล โบรโซวิช ล้วนเติบโตมาจาก เฮอร์วัตสก้า โนโกเมตนา ลีก้า (HNL) ทั้งนั้น คุณภาพของนักเตะในลีกนี้จึงอยู่ในระดับแนวหน้า แถมค่าเหนื่อยยังอยู่ในระดับที่รับได้สบายอีกด้วย

ค่าจ้างเฉลี่ยของนักเตะใน HNL ตกอยู่ราว 8,000-9,000 ปอนด์ หรือคิดเป็น 320,000-360,000 บาทต่อเดือน ยิ่งถ้าเป็นนักเตะระดับกลางไปจนถึงล่างของลีก ซึ่งสามารถเล่นในไทยลีกได้แบบสบาย ๆ รับอยู่เพียง 4,000 ปอนด์ หรือ 160,000 บาทเท่านั้น

ดังนั้นหากสโมสรไทยอยากได้ของดีแถมค่าแรงไม่แพง ลีกโครเอเชียควรค่าแก่การคว้านักเตะเป็นอย่างยิ่ง อย่างในไทยลีกตอนนี้ก็มี ฮาริช วุคคิช จอมทัพคนใหม่ของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ย้ายมาจาก HNL เช่นกัน

เดนิส ซูเปอร์ลีก้า (เดนมาร์ก)

PHOTO : Buriram United

ลีกเดนมาร์กเป็นอีกตลาดที่ทีมไทยควรให้ความสนใจ เพราะเต็มไปด้วยเพชรเม็ดงามที่รอวันเฉิดฉาย และนักเตะส่วนใหญ่ก็รับค่าจ้างอยู่กับทีมไม่ได้สูงมาก ถือว่าถูกไปเลยเมื่อเทียบกับศักยภาพที่อยู่ในตัวพวกเขา

นักเตะใน เดนิส ซูเปอร์ลีก้า รับค่าเหนื่อยเฉลี่ยตกสัปดาห์ละ 1,780 ปอนด์ หรือราว 72,000 บาท หากคิดเป็นรายเดือน พวกเขาจะรับอยู่ที่ 288,000 บาทเท่านั้น เรียกได้ว่าสโมสรไทยจ่ายเงินเรตนี้ได้สบาย เพิ่มค่าเหนื่อยให้สักแสนสองแสน พวกเขาก็น่าจะตอบรับข้อเสนอได้ไม่ยาก

อย่าง ดิออน คูลส์ กองหลังใหม่ในช่วงเลกที่ 2 ของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ก็เคยผ่านการลงเล่นในลีกเดนมาร์กกับ มิดทิลแลนด์ เช่นกัน ซึ่งแน่นอนว่าที่นี่ยังมีนักเตะดี ๆ ให้ทีมจากเมืองไทยดึงมาอีกเพียบ

เอ็กสตราคาซ่า (โปแลนด์)

PHOTO : PKO Ekstraklasa

โปแลนด์เป็นตลาดที่อยู่นอกสายตาของสโมสรไทยลีก ด้วยความที่ลีกของพวกเขาไม่ได้มีชื่อชั้นมากนัก แต่อย่าลืมว่าทีมชาติโปแลนด์มักได้ไปเล่นในรายการใหญ่ ๆ อยู่เสมอ แม้ว่าผลงานในรอบสุดท้ายจะไม่โดดเด่น แต่ปฏิเสธเรื่องคุณภาพของนักเตะไม่ได้

แต่สิ่งที่ทำให้โปแลนด์เป็นตลาดที่น่าสนใจก็คือค่าแรงที่ถูกแสนถูก นักเตะที่นี่รับค่าเหนื่อยเฉลี่ยเดือนละ 3,150 ปอนด์ หรือเพียง 127,000 บาทเท่านั้น เมื่อเทียบกับฝีเท้าของพวกเขาแล้ว ต้องบอกเลยว่าคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม

ดังนั้นการดึงนักเตะจากลีกโปแลนด์จึงเป็นโอกาสที่ดีของทีมไทยลีก โดยเฉพาะกับบรรดาสโมสรเล็ก ๆ ที่มีงบประมาณทำทีมจำกัด ด้วยเรทค่าเหนื่อยที่ถูกกว่านักเตะต่างชาติจากลีกอื่นเป็นเท่าตัว แลกมาด้วยคุณภาพระดับนี้ มันจะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าแน่นอน

เมสตรี้ ลีก้า (เอสโตเนีย)

PHOTO : Muangthong United FC.

หากพูดถึงทีมชาติเอสโตเนีย หลายคนคงมองเป็นทีมสมันน้อย เพราะพวกเขามักจะแจกแต้มให้กับชาติในยุโรปเสมอ แต่ความจริงแล้วเอสโตเนียไม่ได้แย่ขนาดนั้น และรั้งอันดับเหนือกว่าทีมชาติไทยในฟีฟ่าแรงกิ้งเสียอีก (109 กับ 115)

ฉะนั้นการที่นักเตะจากเอสโตเนียจะมาเล่นในเมืองไทย มันจึงไม่ใช่เรื่องยากเกินความสามารถ แถมยังเป็นอะไรที่คุ้มค่าด้วยซ้ำ เมื่อดูจากเพดานค่าเหนื่อยของพวกเขาที่ถูกเหลือเกิน เฉลี่ยเดือนละ 500 ปอนด์ หรือ 80,000 บาท น้อยกว่าค่าเฉลี่ยของไทยลีกอีก

ปัจจุบันนักเตะที่ได้รับค่าจ้างแพงสุดในลีก รับอยู่แค่ 4,000 ปอนด์ต่อเดือน หรือ 160,000 บาทเท่านั้น เรียกได้ว่าทีมไทยลีกสามารถคว้านักเตะตัวท็อปของลีกนี้มาเล่นได้สบาย เหมือนอย่าง เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ดึง เฮนรี่ อานิเยร์ มาจากลีกเอสโตเนีย และเขาก็โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยผลงาน 12 ประตู กับ 5 แอสซิสต์ จาก 32 เกมในทุกรายการ

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

ซื้อจริงจ่ายจริง : 10 อันดับนักเตะไทยค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์

แฮริส วูชคิช : ดาวยิงบุรีรัมย์ที่เคยเล่นพรีเมียร์ลีกตั้งแต่ 19 และอดีตคู่ซ้อมของ 'กาก้า'

สืบจากดีล ‘เคาซิช’ : ‘ลีกรัสเซีย’ แหล่งรวมแข้งของดีราคาถูกที่ทีมไทยลีกไม่ควรมองข้าม

แหล่งอ้างอิง : https://salarysport.com/football/croatian-first-football-league/highest-paid/

https://www.olbg.com/insights/global-football-league

https://www.dailymail.co.uk/sport/football/article-2833020/Premier-League-wages-dwarf-Europe-flight-players-England-earning-average-2-3million-year.html

https://www.transfermarkt.com/thai-league/gastarbeiter/wettbewerb/THA1

แชร์บทความนี้
ฟุตบอล, อนิเมะ, กาแฟ
mask-bg
logo-black

SOCIAL MEDIA

สนใจโฆษณาติดต่อ