Giant Kiliing : 9 ตำนานล้มยักษ์ในบอลถ้วยฟุตบอลไทย
จบไปแล้วกับศึกบอลถ้วย ช้าง เอฟเอ คัพ 2023/24 ที่มีตำนานการล้มยักษ์เกิดขึ้นจาก บางกอก เอฟซี แชมป์ ไทยลีก 3 ที่เขี่ย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทีมที่เคยประกาศว่าจะเป็น "ทริปเปิล ทริปเปิล แชมป์"
เพราะในการแข่งขันฟุตบอลไม่มีอะไรแน่นอนเสมอไป เป็นเพียงลูกกลม ๆ มีลมอยู่ข้างใน อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ ในเวลา 90 นาที ซึ่งมีเกมที่พลิกโผเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการที่ทีมเล็กสามารถล้มสโมสรยักษ์ใหญ่ต่าง ๆ แม้มันจะเป็นเรื่องปกติแต่ก็ทำเอาแฟน ๆ เซอร์ไพรส์ไม่น้อย
และวันนี้แมตช์ล้มยักษ์เหล่านั้นจะมีคู่ไหน มีทีมอะไรกันบ้าง ติดตามไปพร้อมกับพวกเรา Think Curve - คิดไซด์โค้ง
1.ปัตตานี เอฟซี 2-1 โอสถสภา M-150 โตโยต้าลีกคัพ 2011 รอบ 32 ทีมสุดท้าย
ย้อนกลับไปเมื่อ 11 ปีที่แล้วเกิดเหตุการณ์สุดเซอร์ไพรส์แฟนบอลด้ามขวาน เกิดแมตช์ล้มยักษ์บอลถ้วยโตโยต้าลีกคัพ 2011
ท่ามกลางแฟนบอล ณ สนามเดอะ เรนโบว์ สเตเดี้ยม “ปืนใหญ่ลังกาสุกะ” หรือ ปัตตานี เอฟซี พลิกล็อค โค่น โอสถสภา เอ็ม 150 สระบุรี ที่ต้องกลายเป็นยักษ์ถูกล้ม เมื่อพวกเขาบุกไปโดน ปัตตานีฯ เขี่ยตกรอบ 32 ทีมสุดท้าย แบบสุดเจ็บใจ
ซึ่งประชัยของ ปัตตานีฯ เกิดขึ้นในนาทีสุดท้ายของการแข่งขัน จบด้วยสกอร์ 2-1 โดยทีมเจ้าบ้านได้ประตูจาก จีน่า โรแลนด์ และ ดูมากา ฟรานซิส
โอสถสภา M-150 ชุดนั้นเต็มไปด้วยยอดนักเตะ อภิภู สุนทรพนาเวศ ทีมชาติไทย , กอบเดช ชอบมโนธรรม , ภานุวัฒน์ ไฟใหล , คาตาโนะ ฮิโรมิชิ, หลุยส์ เอดูอาร์โด้ ปูร์ชิโน “DUDU” และ สุรเดช ธงชัย แต่ก็ยังต่อกรพลังแฝงของทีมเจ้าบ้านไม่ไหว
2. จันทบุรี เอฟซี 2-0 ราชบุรี มิตรผล เอฟซี โตโยต้าลีกคัพ 2016 รอบแรก
ณ สนามกีฬากลางจังหวัดจันทบุรี ทัพกระทิงป่า จันทบุรี เอฟซี แห่งศึกดิวิชั่น 2 โซนภาคตะวันออก ที่จับคู่โคจรมาเจอกับยอดทีมแห่งไทยลีกอย่าง "ราชันย์มังกร" ราชบุรี มิตรผล เอฟซี
ซึ่งชื่อชั้นไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครเหนือกว่าใคร เพราะด้วยขุมกำลังที่เต็มถังของราชบุรี แถมในขณะนั้นยังมีดาวซัลโวสุดโหดอย่าง "เฮเบอร์ตี้ เฟอร์นานเดซ" อยู่ในทีมอีกด้วย
เกมนี้ราชันย์มังกรใช้ผู้เล่นสำรองผสมกับตัวจริง ซึ่งแกนหลักของทีมในวันนั้นได้แก่ คาร์ลอส ซานโตส,อภิวัฒน์ งั่วลำหิน,ชุติพนธ์ ทองแท้,ณัฐวุฒิ สมบัติโยธา และ ลูคัส กีย์คิวิซ และแล้วอาถรรพ์ทีมล้มยักษ์ก็ทำงาน เมื่อบิ๊กเนมแห่งไทยลีก บุกไปโดน จันทบุรี เอฟซี เจ้าบ้าน ตั้งป้อมสอยร่วงคาถิ่น 2-0 จากฟรีคิกสุดสวยของ ปฎิพัทธิ์ อามะตันตรี และประตูที่สองจาก โช บยองจุน ตกรอบไปอย่างอย่างรวดเร็ว
3. อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด 4-0 อาร์มี่ ยูไนเต็ด โตโยต้าลีกคัพ 2016 รอบแรก
ทัพเทพอินทรีแห่งแดนอีสาน อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด ทีมน้องใหม่ฟอร์มแรง สร้างเซอร์ไพรส์ ณ สนามทุ่งบูรพา เมื่อมีคิวดวลแข้งกับทีมไทยลีกอย่าง "สุภาพบุรุษวงจักร" อาร์มี่ ยูไนเต็ด
โดยหากดูจากชื่อชั้นในขณะนั้น อาร์มี่ฯ เหนือกว่าอยู่เล็กน้อย เพราะเป็นทีมจากดิวิชั่นสูงสุด แต่การได้เล่นในบ้านในเกมนี้ของอุบล ถือเป็นข้อได้เปรียบอย่างสุด ๆ ถึงแม้ชื่อนักเตะอาจจะเป็นรอง แต่การได้เล่นในถิ่นของตัวเอง ย่อมได้เปรียบในเรื่องของการที่ไม่ต้องเดินทางไกลไปแข่งให้อ่อนเพลีย
แม้ว่าอาร์มี่ ยูไนเต็ด จะไม่ประมาท พวกเขาส่งผู้เล่นตัวหลักทั้ง ดาวุฒิ ดินเขต,ทศวรรษ ลิ้มวรรณเสถียร,ไค ฮิราโนะ,โจซิมาร์ ซูซ่า และ มงคล ทศไกร ลงสนาม แต่ก็ยังไม่ไหว โดนพลังแฝงของการเป็นเจ้าบ้าน
โดนทัพเทพอินทรี ขึงสนามบุก ถล่มไปแบบไม่ปราณี 4-0 ฟาเบียน แบรนดี้ อดีตเด็กปั้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เบิกประตูแรก ก่อนที่ อเล็กซ์ ราฟาเอล ดาซิลวา จะจัดการเหมาคนเดียวอีก 3 ประตู เป็นแฮตทริกของเจ้าตัวไปในเกมดังกล่าว
ซึ่งต้องบอกว่าฤดูกาลนี้ของบรรดาแข้ง อาร์มี่ฯ ทำผลงานได้ไม่ดีนัก ทั้งในบอลลีกและบอลถ้วย เพราะนอกจากจะจอดป้ายแรกใน โตโยต้า ลีกคัพ แล้ว อันดับตารางคะแนนในไทยลีกของพวกเขายังรั้งอยู่ในอันดับที่ 11 หลังจากแข่งไปแล้ว 6 นัด ชนะ 2 เสมอ 0 แพ้ 4 มีอยู่เพียง 6 คะแนน เท่านั้น
4. ลำพูน วอริเออร์ 1-0 ชัยนาท ฮอร์นบิล โตโยต้าลีกคัพ 2016 รอบแรก
เรียกได้ว่าเป็นทีมที่เป็นขาประจำไปแล้วสำหรับฉายา "แจ็คผู้ฆ่ายักษ์" อย่าง ราชันย์โคขาว ลำพูน วอริเออร์ เปิดบ้าน แม่กวง สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของสโมสรจากไทยลีกอย่าง "นกใหญ่พิฆาต" ชัยนาท ฮอร์นบิล
คู่นี้อาจจะดูสูสีที่สุดในบรรดาแมตซ์ที่ยักษ์ใหญ่ชนกับยักษ์เล็ก เพราะชื่อชั้นของลำพูนอาจจะอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า แต่ผลงานและฟอร์มการเล่นของทีมพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าพวกเขานั้นของจริง
โดยชัยนาท ก็จัดทัพที่ดีที่สุดมาเยือนด้วยความไม่ประมาท และหวังไว้พอสมควรกับฟุตบอลถ้วยนี้ แต่ด้วยฟอร์มของทีมที่ระส่ำระส่าย แพ้รวดมาถึง 4 นัด ทำให้ "โค้ชหระ" อิสระ ศรีทะโร ต้องกุมขมับในการจัดทัพ ซึ่งเกมนี้ก็เรียกได้ว่าต้องจัดชุดที่ดีที่สุดเพื่อหวังเก็บชัยชนะให้ได้ นำโดย โจ แต คึน,สมภพ นิลวงค์,เรนัน ดาซิลวา ,อเล็กซ์ เวสลีย์ และ จิตปัญญา ทิสุต
รูปเกมต้องบอกว่าสูสีพอสมควร แต่เจ้าถิ่นลำพูน ได้ประตูชัยตั้งแต่ในครึ่งแรกจากการสังหารจุดโทษของกัปตันทีม ชยพล อุดรพันธ์ตั้งแต่นาทีที่ 13 และตลอดเวลาที่เหลือทั้งทีมช่วยกันคอนโทรลเกม และรับมือกับนกใหญ่พิฆาตได้เป็นอย่างดี และจัดการพิชิตยักษ์จากไทยลีกลงได้สำเร็จ
ปัจจุบัน ราชันย์โคขาว ลำพูน วอริเออร์ สามารถขึ้นมาเล่นในเวทีไทยลีกได้สำเร็จ แต่ก็ยังเสี่ยงที่จะตกชั้นไปอีกครั้ง เนื่องจากตอนนี้พวกเขาทำการแข่งขันไป 18 นัด ชนะเพียง 3 เกม แพ้ไปถึง 9 เกม อยู่ในอันดับที่ 14 ของตาราง
5.หนองบัว พิชญ เอฟซี แพ้จุดโทษ 2-4 พราม แบงค็อก (เสมอในเวลา 120 นาที 2-2) ช้าง เอฟเอ คัพ 2022/23 รอบ 32 ทีมสุดท้าย
ในเกมนี้หากดูจากชื่อชั้นแล้ว พราม แบงค็อก ดูเป็นรองอย่างมากเนื่องจากเป็นทีมจากไทยลีก 3 แต่เมื่อจบการแข่งขันทำเอาแฟนบอลหนองบัวฯ ถึงกับพูดไม่ออก
ในครึ่งแรกทั้งสองทีมยังคงดูเชิงกันไปก่อน แต่เป็นทางเจ้าบ้านที่สามารถครองบอลได้เหนือกว่า และได้ประตูออกนำไปก่อนในครึ่งหลังในนาทีที่ 56 จาก บาร์รอส ทาร์เดลี่ กองหน้าชาวบราซิล ดีกรีดาวซัลโว โตโยต้า ไทยลีก 2020
ผ่านไปเพียง 10 นาที พราม แบงค็อก ตามตีเสมอได้สำเร็จจาก โมฮาเหม็ด อิมาม ในนาทีที่ 66 ซึ่งเกมยังคงดำเนินต่อไปทั้งสองทีมพลัดกันรุกพลัดกันรับไม่มีใครยอมใคร แต่แล้วในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 90+4 เจ้าบ้านได้เฮอีกครั้งจากการยิงเบิลสอง ของ บาร์รอส ทาร์เดลี่ แฟน ๆ หนองบัวฯ ดีใจกันยกใหญ่คิดว่าพวกเขาคงชนะและเข้ารอบต่อไปเรียบร้อยแล้ว
แต่สุดท้ายแฟนบอลหนองบัวฯที่ยืนส่งเสียงเฮก็ต้องนั่งลงไปกุมขมับอีกครั้ง เมื่อ พราม แบงค็อก ตามตีเสมออีกครั้งในนาทีบาป 90+7 จาก โมฮาเหม็ด อิมาม เบิลสองอีกเช่นกัน
ต่อพิเศษเวลาครบ 120 นาที ทั้งสองทีมก็ยังยิงประตูชัยกันไม่ได้ การดวลจุดโทษเพื่อตัดสินจึงเริ่มขึ้น และเป็นทาง พราม แบงค็อก ที่แม่นกว่า เอาชนะจุดโทษไปด้วยสกอร์ 2-4 อย่างสุดมัน
6.สมุทรสงคราม เอฟซี 1-0 การท่าเรือ รีโว่ คัพ รอบ 32 ทีมสุดท้าย
พลังแฝงเจ้าบ้านนั้นมีให้เห็นกันอยู่บ่อย ๆ และมันก็เกิดขึ้นอีกครั้งในเกมนี้ สมุทรสงคราม เอฟซี เปิดสนามอบจ.สมุทรสงคราม ต้อนรับการมาเยือนของ “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือ เจ้าของแชมป์เก่าปี 2010
เริ่มการแข่งขันในครึ่งเวลาแรกเป็นทางผู้มาเยือน การท่าเรือฯ ได้มีโอกาสครองเกมและทำเกมบุกใส่ แต่ยังไม่สามารถเจาะแนวรับทีมเจ้าถิ่นได้ ทั้ง 2 ทีม ยังไม่สามารถทำประตูได้ ทำให้หมดเวลาการแข่งขันในครึ่งแรก สมุทรสงคราม เอฟซี ยังเสมอ การท่าเรือ เอฟซี 0-0
กลับมาเริ่มกันในครึ่งหลังเกมยังคงดำเนินต่อไปด้วยความกดดัน เนื่องจากทั้งสองทีมรัดกุมกันสุด ๆ แต่ในช่วงท้ายเกม นาทีที่ 84 สมุทรสงคราม เอฟซี ได้ประตูชัยจากจังหวะที่ ภูมิ พิมพ์วงศ์ เปิดฟรีคิกจากทางฝั่งขวาเข้าไปในกรอบเขตโทษ ชาริล ชัปปุยส์ โหม่งสกัดแต่ยังไม่พ้นอันตราย บอลไปเข้าทาง มูฮำหมัดอัสมาน สะเตาะ ซัดเต็มข้อด้วยขวา บอลผ่านมือ วรวุฒิ ศรีสุภา นายด่านทีมเยือนเข้าไป
ซึ่งในเวลาที่เหลือ ทีมเยือน การท่าเรือ พยายามบุกเพื่อหวังทำประตูตีเสมอ แต่ไม่สามารถหาประตูตีเสมอได้ จบเกม เป็นทาง สมุทรสงคราม เอฟซี พลิกล็อก เฉือนเอาชนะ การท่าเรือ เอฟซี 1-0 ส่งผลให้ สมุทรสงคราม เอฟซี ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ ส่วน การท่าเรือ เอฟซี ต้องจอดไว้ที่รอบ 32 ทีมสุดท้าย
“เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อมากว่าทีมเราทำได้ ต้องชื่มชมน้อง ๆ ในทีมที่เล่นได้อย่างยอดเยี่ยม” ดาเมียน เบลลอง กุนซือ สมุทรสงคราม เอฟซี กล่าวหลังเกมที่พวกเขาล้มทีมยักษ์ใหญ่จากไทยลีกได้
7.ดราก้อน ปทุมวัน กาญจนบุรี 2-1 โปลิศ เทโร รีโว่ คัพ รอบ 32 ทีมสุดท้าย
ดราก้อน ปทุมวัน กาญจนบุรี ทีมอันดับ 2 ของไทยลีก 3 มีคิวดวลแข้งกับยอดทีมจากไทยลีก อย่าง “มังกรโล่เงิน” โปลิศ เทโร ณ สนามกีฬาเทศบาลเมืองกาญจนบุรี (สวนสมเด็จพระสังฆราชญาณสังวร)
เจ้าบ้านออกนำไปก่อนอย่างรวดเร็วจากลูกยิงของ เซอร์เกย์ ตูมัสยัน ในนาทีที่ 4 หลังจากโดนขึ้นนำ โปลิศ เทโร เริ่มเปิดเกมบุกเข้าใส่มากขึ้นเพื่อหวังประตูตีเสมอ แต่กลับตาลปัตร เริ่มครึ่งหลังได้เพียง 6 นาที เป็นทางทัพมังกรไฟออกนำห่างจากประตูของ อนุรักษ์ ยืนหาร ทำให้ทางเจ้าบ้านเล่นได้สบายขึ้นไม่กดดัน
ทางทีมเยือนด้วยดีกรีไทยลีกแล้วไม่มียอมแน่นอน ขึงเกมบุกใส่ไม่มีลดละหวังคัมแบ็คกลับมาให้ได้ แต่วันนี้ยอดทีมจากลีก 3 เล่นได้ดีเหลือเกิน พวกเขาทำได้เพียงประตูตีไข่แตกจาก เสฏฐวุฒิ วงค์สาย ในนาทีที่ 70 เท่านั้น จบเกม “มังกรโล่เงิน” พลาดท่าตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย
8.อยุธยา ยูไนเต็ด 1-0 ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด รีโว่ คัพ รอบ 32 ทีมสุดท้าย
ในเกมนี้เจ้าบ้านอย่าง “นักรบอโยธยา” ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เฉือนเอาชนะทีมยักษ์ใหญ่ อย่าง ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด ไปได้ จากประตูชัยของ ไกรลาศ ปัญญาโรจน์ แม้พวกเขาจะเหลือผู้เล่นเพียง 10 คนก็ตาม
สันติ ไชยเผือก กุนซือของทีม อยุธยา ยูไนเต็ด กล่าวชมลูกทีมและแฟนบอลหลังเกม
“เป็นเกมที่สนุก เชียงรายค่อนข้างมาชุดใหญ่ซึ่งเราประเมินกันไว้แล้ว เกมนี้พยายามให้เด็กบางคนได้เล่นด้วย โอเคกับผลชนะ เราได้เข้ารอบต่อไป ช่วงที่โดนใบแดง เราต้องปรับเกมเพื่อรักษาสกอร์เอาไว้”
“ต้องชื่นชมทุกคน ที่อดทน มีวินัย เราเจอ เชียงราย ทีมรัดับไทยลีก 1 ที่มีคุณภาพ ซึ่งเด็ก ๆ ทุกคนทำได้ดีมาก อยุธยามีแฟนบอลที่เหนียวแน่น ซัพพอร์ตทีมอย่างเต็มที่ ฉะนั้นรอบหน้าไม่ว่าใครจะมาเยือน เราเหนื่อนแน่นอน”
อย่างไรก็ตาม อยุธยา ยูไนเต็ด รั้งอยู่ในอันดับที่ 4 ของตารางคะแนนไทยลีก 2 ซึ่งพวกเขายังอยู่ในเส้นทางการเลื่อนชั้น และยังต้องทำงานอย่างหนักเพื่อไปอยู่ในอันดับที่สูงขึ้น
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
9.นครปฐม ยูไนเต็ด 1-0 ชลบุรี เอฟซี รีโว่ คัพ รอบ 32 ทีมสุดท้าย
เรียกได้ว่าทัพ “เสือป่าราชา” เป็นตัวแสบของ ชลบุรี เอฟซี ในฤดูกาลนี้เลยก็ว่าได้ หลังจากพวกเขาพลิกล็อกเขี่ย “ฉลามชล” ทีมหัวตารางของไทยลีก 1 ตกรอบ 64 ทีม ในศึก ช้าง เอฟเอ คัพ ที่สนามโรงเรียนกีฬานครปฐม แถมยังยิงประตูชัย 2-1 ในนาทีทดเวลาบาดเจ็บ 90+5 อีกด้วย
และล่าสุด นครปฐม ยูไนเต็ด ยืนยันคำว่าตัวแสบได้ชัดเจนมากขึ้น ในการพบกันครั้งที่สอง ในศึก รีโว่ คัพ รอบ 32 ทีมสุดท้าย นครปฐมฯ เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ ชลบุรีฯ อีกครั้ง
ความพร้อมในเกมนี้ของ “เสือป่าราชา” โค้ชธง ธงชัย สุขโกกี กุนซือของทีม เตรียมเปิดบ้านในการเจอกับทีมดังจากไทยลีกอีกหน ด้วยแข้งตัวความหวังที่มีทั้ง โชคชัย ชูไชย, ก้องนธีชัย บุญมา, อนุกรณ์ สางรัมย์, นัทที น้อยวิไล, ปีเตอร์ เนอร์การ์ด
พวกเขามีสถิติที่ดีในการเปิดบ้าน 3 เกมหลังสุดในขณะนั้น ชนะ 2 เสมอ 1 ยังไม่แพ้ใคร ส่วนทีมเยือน เกมนอกบ้านไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ 3 เกมหลังสุด เสมอ 1 แพ้ถึง 2
ทาง ชลบุรีฯ ครองเกมบุกใส่หวังล้างตาให้สำเร็จและแล้วสถิติก็ยังคงใช้งานได้อยู่เช่นเคย พวกเขาเหนือกว่าจริง แต่พลาดท่าแพ้ให้กับ นครปฐมฯ อีกครั้ง และประตูชัยของ นครปฐมฯ ยังเกิดขึ้นในช่วงทดเวลาบาดเจ็บอีกเหมือนเดิมจากลูกยิงของ โมฮาเหม็ด เอสแซม ในนาทีที่ 90+6 แสบสุด ๆ สำหรับ นครปฐมฯ ในฤดูกาลนี้
ทั้งนี้ “เสือป่าราชา” ยังคงรั้งอันดับ 5 ของตารางคะแนนไทยลีก 2 ซึ่งยังคงมีโอกาสลุ้นขึ้นมาอยู่ในอันดับเลื่อนชั้นไทยลีก หากพวกเขาสามารถเก็บชัยชนะให้ได้มากที่สุดในช่วงท้ายฤดูกาลที่เหลืออยู่
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
Y2K เดอะ ซีรี่ส์ : มานิตย์ น้อยเวช : ชีวิตไม่ง่ายและกว่าจะเป็น “ริวัลโด้กั๊ก”
Y2K เดอะ ซีรี่ส์ : เรื่องเล่าสมัยไทยลีกยังเต็มไปด้วยขาโหดจาก "รุ่งโรจน์ สว่างศรี"