'บีจี ดวล ขอนแก่น' เกมที่ดูเหมือน ง่าย แต่ไม่เคย ง่าย จริง
เกม ไทย ลีก นัดที่ 28 ที่จะลงแข่งขันกันในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ยังคงมีแมตช์ที่น่าสนใจให้แฟนบอลได้ติดตามกันเป็นประจำเช่นเคย โดยประเด็นที่โฟกัสอยู่ในตอนนี้อาจไม่ใช่การลุ้นแชมป์เท่าไหร่นัก เพราะส่วนใหญ่ต่างเชื่อว่าแทบจะแบเบอร์ที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะครองความยิ่งใหญ่ไปได้อีกหนึ่งฤดูกาล
ทีมในตำแหน่งหัวตารางอันดับที่ 3-5 ยังไม่มีสโมสรไหน การันตีว่าจะจบอันดับที่ดีที่สุดได้ที่เท่าไหร่? ไล่เรียงมาตั้งแต่ การท่าเรือ เอฟซี (อันดับที่ 3), บีจี ปทุม ยูไนเต็ด (อันดับที่ 4) และ เมืองทอง ยูไนเต็ด (อันดับที่ 5) ซึ่งภาพทุกอย่างคงจะชัดเจนขึ้นหลังจบเกมในสัปดาห์นี้
ในทางกลับกัน ‘การหนีตกชั้น’ ของกลุ่มสโมสรท้ายตาราง นั้นมีความเข้มข้นมากกว่าเพราะไล่เรียงตั้งแต่อันดับที่บ๊วยอันดับที่ 16 ยาวมาจนถึงอันดับที่ 8 ยังไม่มีทีมไหน การันตีความอยู่รอดได้แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ เนื่องจากยังเหลือ 9 แต้มให้ตามลุ้นตามเก็บกัน ส่วนช่องว่างของคะแนนที่ห่างกันที่สุดนั้นอยู่ที่ 7 แต้ม ระหว่าง นครปฐม ยูไนเต็ด (32 แต้ม) อันดับที่ 8 และ โปลิศ เทโร (25 แต้ม) อันดับที่ 16
หากโฟกัสไปที่ทีมจอมทุ่มอย่าง บีจี ที่จะมีโปรแกรมเปิดบ้านรับการมาเยือนของ ขอนแก่น ยูไนเต็ด ต่างฝ่ายต่างมีความต้องการจะเก็บสามแต้มทั้งคู่ แต่เป้าหมายนั้นต่างกันออกไป กระต่ายแก้ว ยังแอบลุ้นลึกๆ ในการไล่ล่าอันดับที่ 3 รวมไปถึงการรักษาตำแหน่งท็อปโฟร์ ส่วนทางฝั่งทีมเยือน จงอางผยอง ก็ต้องการการันตีการอยู่รอดในลีกสูงสุดต่อไป
การพบกันก่อนหน้านี้ของทั้งสองทีม หากมองกันในเรื่องของชื่อชั้นและศักยภาพของผู้เล่น ชัดเจนอยู่แล้วว่า บีจี นั้นเหนือกว่าแบบคนละชั้น ตามหน้าเสื่อแล้วเหมือนจะเป็นงานที่ง่าย แต่ความเป็นจริงแล้ว ขอนแก่น กลับสู้ได้สนุกหลายต่อหลายเกม แถมมีนัดที่สร้างความลำบากใจให้กับทีมใหญ่ได้อยู่เสมอ เพราะขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแกร่งในเกมรับ
ความพร้อมล่าสุดของทั้งสองทีมก่อนเจอกันเป็นเช่นไร? เกมที่ดีของแต่ละทีมในการดวลกันทั้งหมดมีเกมไหนที่น่าจดจำบ้าง? สถิติการเจอกันเป็นฝั่งไหนที่กุมความได้เปรียบเหนือกว่า? ร่วมหาคำตอบไปพร้อมกับ Think Curve - คิดไซด์โค้ง
เจ้าบ้านไม่เคยแพ้
ผลงานของ บีจี ในการเล่นเป็นทีมเหย้า ถือว่ามีความแข็งแกร่งพอสมควร นับมาตั้งแต่ฤดูกาลก่อนๆ ไม่ว่าจะเป็นการเจอกับทีมระดับไหน ถ้าหากไม่อยู่ในช่วงหลุดฟอร์มจริงๆ ต้องให้เครดิตว่า แฟนบอลกระต่ายแก้ว ที่เข้ามาชมเกมในสนาม มักจะได้ความประทับใจกลับออกไปเสมอ
เช่นเดียวกับการเผชิญหน้ากับ ขอนแก่น สโมสรที่ไต่ระดับมาตั้งแต่ลีกล่างๆ จนขึ้นมาอยู่บนลีกสูงสุดได้สำเร็จ เพราะดวลกันมาที่สนามแห่งนี้ 2 ครั้งก่อนหน้านี้ในสองฤดูกาลหลังสุด บีจี ไม่เคยพลาดท่าพ่ายให้กับพลพรรค จงอางผยอง แม้แต่เกมเดียว
โดยการเจอกันครั้งแรกที่สนามแห่งนี่เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2021 บีจี เป็นฝ่ายบดเอาชนะไปได้แบบฉิวเฉียด 2-1 ในยุคของ ออเริลิโอ วิดมาร์ ที่ดวลกับ คาร์ลอส ปาเรย์ร่า แล้วเป็นฝ่ายเจ้าถิ่นที่ได้สองประตูออกนำ 2-0 ตั้งแต่ครึ่งแรกจาก เจนรบ สำเภาดี นาทีที่ 4 และ ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ นาที่ที่ 31
ก่อนที่ครึ่งหลังจะเป็นทาง ขอนแก่น ที่ได้ประตูไล่มาเป็น 1-2 จากจุดโทษของ อิ๊บสัน เมโล่ ในนาทีที่ 65 ซึ่งเป็นจังหวะต่อเนื่องมาจากความผิดพลาดของ ฉัตรชัย บุตรพรม ที่ออกไปตัดบอลนอกกรอบเขตโทษพลาด แล้วไปทำฟาล์ว จักรกริช พาละพล ในกรอบเขตโทษจนโดนใบแดงไล่ออกไป หลังจากนั้นทีมเยือนก็อาศัยความได้เปรียบเรื่องตัวผู้เล่น พยายามบุกใส่อย่างหนักแต่ก็ไม่เป็นผล เนื่องจากเจ้าถิ่น บีจี ก็อาศัยความเก๋าประสบการณ์ยันเอาไว้ได้
ต่อมาเกมที่สองที่ทั้งสองทีมเจอกันที่ บีจี สเตเดี้ยม ในฤดูกาลถัดมา ก็เป็นทางฝั่ง กระต่ายแก้ว ที่ย้ำแค้น จงอางผยอง ได้อีกครั้ง ด้วยการเก็บชัยชนะไปด้วยสกอร์ 2-0 ซึ่งหากมองแค่สกอร์เพียงอย่างเดียว คงดูเหมือนจะเป็นเกมที่ง่ายของเจ้าบ้าน แต่ความเป็นจริงแล้วตรงกันข้ามเป็นยากแบบรากเลือด
เกม ไทย ลีก นัดที่ 9 ฤดูกาล 2022 ระหว่างทั้งคู่ ลงเตะกันวันที่ 16 ตุลาคม 2022 ทางฝั่ง บีจี ในยุคนั้นเปลี่ยนโค้ชมาเป็น มาโกโตะ เทกุระโมริ ส่วนทางฝั่งทีมเยือน ขอนแก่น ยังใช้กุนซือหน้าเดิมอย่าง คาร์ลอส ปาเรย์ร่า ต่างฝ่ายต่างมีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นพอสมควร
เกมในครึ่งแรกเป็นทางฝั่ง บีจี ที่ทำได้ดีกว่าตามหน้าเสื่อ แล้วเป็นทาง ธีรศิลป์ แดงดา ยิงประตูให้ทีมออกนำไปก่อน 1-0 จากลูกจุดโทษนาทีที่ 29 หลังจากนั้น ปฐมพล ดาวเตะตัวแสบที่เคยยิง ขอนแก่น มาแล้วในซีซั่นก่อนที่สนามแห่งนี้ ก็มาชาร์จจ่อๆ ให้ต้นสังกัดออกนำเป็น 2-0 ในนาทีที่ 33 สถานการณ์ดูเหมือนจะเป็นเกมที่ง่ายของเจ้าถิ่นในการเก็บสามแต้มในรัง แต่ทุกอย่างกลับไม่เป็นเช่นนั้นเมื่อทาง อภิสิทธิ์ โสรฎา มาโดนใบแดงไล่ออกไปในช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก แล้วเป็นอีกครั้งที่ทางฝั่งเจ้าบ้านต้องดวลกับ จงอางผยอง ด้วยตัวผู้เล่นที่น้อยกว่า แถมคราวนี้ยังต้องยันให้ได้แบบเหลือเวลาอีกครึ่งนึงเต็มๆ
เกมในครึ่งหลัง ขอนแก่น พยายามใช้ความได้เปรียบเรื่องตัวผู้เล่นทำเกมบุกเพื่อทวงประตูคืน แต่ไม่มีจังหวะจะแจ้งมากนัก เพราะโดนแนวรับและแผงกองกลางของเจ้าถิ่น ที่คุมพื้นที่ได้อย่างยอดเยี่ยม ดักเก็บเอาไว้ได้เกือบหมด แถมยังมีจังหวะสวนเพื่อทำประตูแบบทิ้งห่างเหน่งๆ หลายต่อหลายรอบ เรียกได้ว่าจะแจ้งกว่าแบบดูไม่ออกว่าเหลือตัวผู้เล่นน้อยกว่า เพียงแต่ไม่มีฝ่ายไหนที่ส่งบอลเข้าไปกองที่ก้นตาข่ายได้ สุดท้ายผลการแข่งขันก็จบลงด้วยสกอร์เดียวกับครึ่งแรกที่ทาง บีจี ชนะไป 2-0
ต้องยอมรับว่าการเจอกับคู่แข่งอย่าง ขอนแก่น ไม่ใช่งานง่ายเลยสักครึ่งของ กระต่ายแก้ว ที่กว่าจะคว้าสามแต้มมาครองได้ ต้องเจอกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดไม่คาดฝันอยู่เสมอ แต่ด้วยประสบการณ์และคุณภาพผู้เล่น ก็ทำให้พวกเขาเอาตัวรอดมาได้ตลอด
อย่างไรก็ตามเมื่อเปลี่ยนฝั่งให้ จงอางผยอง เป็นเจ้าบ้านบ้าง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็กลับตาลปัตร เพราะทาง บีจี ก็ไม่เคยบุกไปเอาชัยชนะถึงถิ่นได้เลยสักเกมเดียวเช่นกันนับมาจนถึงตอนนี้
จงอางหนังเหนียว
ขอนแก่น ยูไนเต็ด เป็นสโมสรที่ขึ้นชื่อลือชาอยู่แล้ว ในการเล่นในรังของตัวเองอย่างสนามกีฬา อบจ.ขอนแก่น ที่เคยถูกวิจารณ์มาหลายต่อหลายครั้งว่ามีสภาพที่ไม่สมบูรณ์ ขาดการดูแลที่เหมาะที่ควร ผิวหญ้าไม่เรียบเนียน จนมีการปรับปรุงทุกอย่างไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามสภาพสนามอาจไม่ใช่เพียงปัจจัยเดียว ที่ทำให้หลายต่อหลายทีมต้องมาพลาดท่าเสียทีให้กับ พลพรรคจงอางผยอง เนื่องจากความใจสู้และการเล่นเกมรับที่เหนียวแน่น ก็เป็นปัจจัยสำคัยที่มองข้ามไม่ได้ เพราะพวกเขาแสดงให้เห็นถึงสปิริตอันแรงกล้ามาแล้วหลายต่อหลายครั้ง
บีจี ก็เป็นอีกหนึ่งทีมที่ยังไม่สามารถมาปลดล็อคชัยชนะเหนือ ขอนแก่น ที่สนามแห่งนี้ได้ ซึ่งผ่านการเจอกันมาแล้วถึง 3 ครั้ง 3 ครา แต่ผลลัพธ์ทุกเกมจบลงด้วยการเสมอกันไปทั้งหมด เริ่มตั้งแต่ฤดูกาล 2021 ที่เสมอกันไปแบบสุดมัน 2-2, ฤดูกาล 2022 เสมอกันไป 0-0 และฤดูกาลนี้ที่เสมอกันไป 1-1
ซึ่งหากจะยกตัวอย่างเกมที่ ขอนแก่น ต่อกรกับ บีจี ได้อย่างสูสีเกินคาด คงไม่พ้นฤดูกาลแรกที่พวกเขาเพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาลีกสูงสุดครั้งแรกได้สำเร็จเป็นประวัติศาสตร์สโมสรในปี 2021 โดยนักเตะชุดนั้นก็ไม่ได้มีดาวดังดาวเด่นในการแบกทีมหลายคน แล้วปลายทางตอนจบฤดูกาลก็เอาตัวรอดได้แบบสบายๆ ด้วยการจบในอันดับที่ 10 ที่ถือว่าเกินคาดอย่างมาก
เกมในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2021 ขอนแก่น ต้องเปิดบ้านรับการมาเยือนของ บีจี โดยขุนพลของพวกเขานั้นมีเพียงไม่กี่คนที่แฟนบอลไทยพอจะคุ้นชื่อ อาทิ ยศพล เทียงดาห์ ประตูมือเก๋า, โรมูโล กับ อิ๊บสัน เมโล่ สองศูนย์หน้าตัวชูโรง
ส่วนทางฝั่งทีมเยือน บีจี นั้นอุดมไปด้วยสตาร์แบบเต็มสูบ ไม่ว่าจะเป็น อันเดรส ตูเญซ, วิคเตอร์ คาร์โดโซ่, สารัช อยู่เย็น, ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต และ ธีรศิลป์ แดงดา ที่นับว่าเป็นตัวท็อปบนเวที ไทย ลีก ทั้งสิ้น แค่เทียบชื่อชั้นกันก่อนแช่ง แฟนบอลคงคาดเดากันไปต่างๆ นาๆ ว่า รูปเกมคงต้องห่างกันแบบสุดขั้ว
แต่ความเป็นจริงแล้วเกมนั้นกลับเป็นเจ้าถิ่น ขอนแก่น ที่อาศัยลูกบู๊เกมหนัก บดใส่อาคันตุกะจนแทบไปไม่เป็น จนได้ประตูออกนำไปก่อนจากการยิงยัดเสาแรกแบบสุดสวยของ วรนาถ ทองเครือ นาทีที่ 14 แต่แล้วศักยภาพของผู้เล่นทีมเยือนอย่าง อิ๊คห์ซาน ฟานดี้ ก็มาโหม่งตามตีเสมอได้เป็น 1-1 นาทีที่ 19
เจ้าถิ่น ขอนแก่น เกมนั้นไม่มีอาการเสียกำลังใจใดๆ ยังคงเดินหน้าเพื่อหวังทำภารกิจเป็น แจ็คผู้ฆ่ายักษ์ อย่างต่อเนื่อง แล้วก็มาได้ประตูออกนำอีกครั้งจากการยิงของ อิ๊บสัน ดาวยิงตัวเก่งในนาทีที่ 37 ก่อนจะจบครึ่งแรกด้วยการกุมความได้เปรียบอยู่หนึ่งสกอร์ จากการออกนำ 2-1
แต่แล้วครึ่งหลัง โค้ชง้วน-สุรชัย จตุรภัทรพงษ์ ก็แก้เกมให้กับ บีจี มาได้เป็นอย่างดี หวังทำเกมบุกเพื่อทวงประตูคืนให้ได้ แล้วก็มาประสบความสำเร็จจากจังหวะที่ ดิโอโก้ มาเรียกลูกจุดโทษให้กับ บีจี ได้จากเหลี่ยมเก๋า ก่อนจะรับหน้าที่ลุกขึ้นมาสังหารด้วยตัวเองเข้าไปในนาทีที่ 65 จนสกอร์กลับมาเสมอกันที่ 2-2 หลังจากนั้นต่างฝ่ายต่างพยายามเร่งเกมเพื่อมองหาประตูชัย แต่ก็ไม่เป็นผลทำให้แบ่งกันไปทีมละแต้มในที่สุด
ความพร้อมล่าสุด
การเจอกันระหว่าง บีจี และ ขอนแก่น ทุกครั้ง การันตีแฟนบอลได้ล่วงหน้าเลยว่า จะได้เห็นรูปเกมที่สนุกและน่าตื่นเต้นเสมอ ซึ่งเกมที่จะลงแข่งขันกันในวันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคมนี้ เวลา 19.00 นาฬิกาตรง คงไม่แตกต่างไปจากเดิมแน่นอน
เจ้าถิ่น บีจี ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด นับว่าเป็นช่วงที่ผลงานกระเตื้องขึ้นมาเล็กน้อย หลังจากที่ 5 เกมหลังสุดรวมทุกรายการ เก็บชัยชนะไปได้ถึง 3 เกม เสมอ 1 เกม และแพ้ 1 เกม ไล่มาตั้งแต่ บุกชนะ เชียงราย ยูไนเต็ด 3-2 (ไทยลีก), เสมอ ชลบุรี เอฟซี 1-1 (ไทยลีก), บุกชนะ ราชบุรี เอฟซี 3-0 (ลีกคัพ), เปิดบ้านพ่าย การท่าเรือ 1-3 (ไทยลีก) และบุกชนะ ราชบุรี เอฟซี 1-0 (ไทยลีก) ซึ่งมองจากภาพรวมตอนนี้คงไปโฟกัสที่การลุ้นแชมป์บอลถ้วยเสียมากกว่า
สภาพความพร้อมเกมนี้ เทกุซัง ไม่มีปัญหาเรื่องนักเตะติดโทษแบน แต่จะขาดตัวเจ็บอย่าง อีกอร์ เซอร์เกเยฟ และ เซย์ดีน เอ็นดิอาเย สองตัวต่างชาติที่บาดเจ็บยาว แต่แอบแว่วๆ มาว่ารายแรกกลับมาซ้อมได้แล้ว ส่วนสตาร์ตัวชูโรงคนอื่นๆ ยังอยู่กันพร้อมหน้า ไม่ว่าจะเป็น สารัช อยู่เย็น, ชนาธิป สรงกระสินธ์ และ ธีรศิลป์ แดงดา สามประสานจากทีมชาติไทย พร้อมลงช่วยทีมได้ทั้งหมด
ข้ามมาทางฝั่งทีมเยือน ขอนแก่น ภายใต้การกุมบังเหียนของ โค้ชแมน-ธนา ชะนะบุตร ฟอร์มการเล่น 5 นัดหลังสุดรวมทุกรายการ ยังคงไม่น่าประทับใจเท่าไหร่นัก ชนะ 1 นัด เสมอ 2 นัด และแพ้ไป 2 นัด เริ่มตั้งแต่ บุกพ่าย อุทัยธานี 0-2 (ไทยลีก), แพ้ เมืองทอง ยูไนเต็ด ในการดวลจุดโทษ 4-5 หลังเสมอกันในเวลา 1-1 (ลีก คัพ), เปิดบ้านเสมอ ตราด เอฟซี 1-1 (ไทยลีก), บุกชนะ ลำพูน วอริเออร์ 3-2 (ไทยลีก) และเปิดบ้านเสมอ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด 2-2 (ไทยลีก)
โดยข่าวดีของพวกเขา คือ ไม่มีตัวผู้เล่นบาดเจ็บหรือติดโทษแบนแม้แต่รายเดียว พร้อมลงสนามช่วยทีมได้หมด นำทัพมาโดยแนวรุกฟอร์มร้อนอย่าง ชิษณุพงษ์ โชติ ที่มีทีเด็ดในการสอดขึ้นมาทำประตูให้เห็นหลายต่อหลายครั้ง จนแฟนบอลบางกลุ่มเชียร์ให้เขามีโอกาสกับทีมชาติชุดใหญ่สักที
การเจอกันรอบนี้ต้องมาลุ้นกันว่า บีจี จะยังคงรักษาสถิติที่ยอดเยี่ยมในการเจอกับ ขอนแก่น ยูไนเต็ด ด้วยการไม่แพ้เป็นเกมที่ 6 ติดต่อกัน และชนะที่สนามแห่งนี้เป็นเกมที่ 3 ติดต่อกันได้หรือไม่? หรือจะเป็นฝ่ายอาคันตุกะ ขอนแก่น ที่บุกมาทำลายอาถรรพ์ ปลดล็อคชัยชนะเหนือ กระต่ายแก้ว เป็นเกมแรกได้สักที
แหล่งข้อมูลอ้างอิง :
ข่าวและบทความล่าสุด
MOST POPULAR
อาทิตย์โพสต์เฟซบุ๊กลาเสือป่า หลังเจ็บชวดลงนัดท้าย
เกาหลีใต้ตั้ง คิม โด ฮุน นั่งกุนซือชั่วคราวบู๊คัดบอลโลก 2 นัดท้าย
ชลบุรีออกแถลงการณ์ขอโทษแฟนบอล น้อมรับวิจารณ์หลังทีมร่วง T2
โค้ชโจ้จวกยับโจนาธาร หลังยิงจุดโทษไม่เข้าเกมราชบุรี-ท่าเรือ
ขาสั้น เดอะ ซีรีส์ : 3 แข้งเด็ดพาลุ้นแชมป์ถ้วย ก. จากรั้วแม่รำเพย
